อัปเดต HR Digital Transformation 2023
จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องการทำงาน รวมถึงเรื่องของ HR ด้วย
รายงานล่าสุดของ Ladders Quarterly Remote Work Report เปิดเผยว่า “พนักงานงานกว่า 20 ล้านคน จะไม่กลับไปทำงานที่เดิมหลังสถานการณ์โควิด”
และในขณะเดียวกัน พนักงานส่วนใหญ่ยังต้องการตัวเลือกในการเข้าทํางานแบบ Hybrid ที่มากขึ้น
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้องค์กรต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อเปลี่ยนการทำงานของ HR ให้เป็นระบบดิจิทัล (HR Digital Transformation) เพื่อให้องค์กรสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
ดังนั้นบทความนี้ Humanica จะกล่าวถึงบทบาทใหม่ทางดิจิทัลของ HR ฉบับประจำปี 2023 เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ ดำเนินการเปลี่ยนแปลงและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับองค์กรของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
HR Digital Transformation คืออะไร
HR Digital Transformation คือ กระบวนการทำงานของฝ่ายบุคคล (HR) ที่นำเครื่องมือทางเทคโนโลยีและกลยุทธ์ด้านทรัพยากรบุคคลดิจิทัลมาใช้ เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของพนักงาน ลดความผิดพลาด
และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้เป็นแบบออนไลน์มากขึ้น พร้อมทั้งยังสามารถนำข้อมูลเชิงลึกเข้ามาวิเคราะห์ เพื่อหากลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่ช่วยในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ประโยชน์ของของใช้ Digital HR
4 HR Digital Transformation ที่จำเป็นต่อ HR
เพื่อให้โปรแกรมบริหารทรัพยากรบุคคลมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเหมาะสมกับการเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 มารู้จัก 4 HR Digital Transformation ที่ช่วยให้ HR สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับองค์กรได้ ดังต่อไปนี้
1. Digital Onboarding
ถึงแม้ในปี 2023 โรคโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น และทุกคนกลับมาทำงานที่ออฟฟิศกันมากขึ้น แต่พนักงานส่วนใหญ่ก็ยังคงต้องการทำงานแบบ Work From Home สลับกับการเข้ามาที่ออฟฟิศอยู่ดี
ดังนั้นหากมีพนักงานใหม่เข้ามา การเทรนนิ่งในการทำงานอาจเป็นเรื่องยาก ซึ่งการหันมาใช้ Digital HR อย่าง Digital Onboarding จะเข้ามาช่วยในการดูแลพนักงานใหม่ เข้าถึงวัฒนธรรมองค์กรได้ง่ายขึ้น
การทำงาน บทบาทหน้าที่ ตลอดจนช่วยให้สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้องค์กรใช้คนในการเทรนพนักงานใหม่น้อยลง และลดปัญหาการลาออกของพนักงานใหม่ได้ดียิ่งขึ้น
2. People Analytics
ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมาก และจะยิ่งสำคัญมากขึ้นในปี 2023 เพราะข้อมูลเหล่านี้จะเป็นการช่วยคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
เพราะในโลกธุรกิจไม่มีอะไรแน่นอน ผู้ที่เข้าถึงข้อมูลได้เร็วและวิเคราะห์ได้ถูกต้อง คือผู้ที่จะก้าวผ่านทุกสถานการณ์ได้
ดังนั้นองค์กรควรใช้ Digital HR ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลบุคคล (People Analytics) เพื่อให้ HR สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน และการตัดสินใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการจัดการด้านบุคลากร การรักษาพนักงานให้อยู่นานที่สุด รวมไปถึงการสรรหาบุคลากรใหม่ด้วย
3. AI-Powered Applicant Tracking Systems
การแข่งขันในปี 2023 จะสูงขึ้น และมีคนจำนวนมากที่โยกย้ายเปลี่ยนสายงาน ส่งผลให้ฝ่าย HR ต้องทำงานหนักมากขึ้น
เพราะการอ่านเรซูเม่เพื่อคัดสรรพนักงานใหม่เป็นงานที่ต้องใช้เวลา และยิ่งในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีผู้สมัครส่งเรซูเม่เข้ามาจำนวนมากต่อวัน
จึงไม่น่าแปลกใจที่องค์กรขนาดใหญ่หลายแห่ง ได้เริ่มนำระบบติดตามผู้สมัครที่ขับเคลื่อนด้วย AI (ATS) มาใช้ เพื่อช่วยคัดแยกผู้ที่ไม่ผ่านการเกณฑ์ ด้วยตัวกรองที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าตาม ทักษะ ประสบการณ์ทำงาน การศึกษา หรือคุณสมบัติอื่น ๆ ตามที่องค์กรต้องการ
4. HR Chatbots
แม้ Process ของ Digital Onboarding จะสามารถดูแลพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว แต่ก็อาจยังไม่ครอบคลุมทุกคำถามหรือข้อกังวลของพนักงานทุกคนได้
แต่ด้วย Digital HR อย่าง HR Chatbots ที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลสร้างข้อความตอบกลับอัตโนมัติไว้รองรับ จะสามารถช่วยตอบคำถามและข้อกังวลที่พบบ่อยบางข้อให้กับพนักงานได้อย่างทันทีทันใด
อีกทั้งแชทบอทยังเป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่ช่วยให้พนักงานรู้สึกสบายใจที่จะมีส่วนร่วมกล้าที่จะใช้งาน และเป็นทางเลือกที่สะดวกมากกว่าการแวะมาที่สำนักงานฝ่ายทรัพยากรบุคคลเพื่อถามคำถามง่าย ๆ ที่ทำให้ขัดจังหวะเวลาทำงานกันทั้งสองฝ่าย
อย่างที่ทราบกันดีกว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างให้กับความต้องการของพนักงาน ส่งผลให้องค์กรต้องเตรียมรับกับมือความเปลี่ยนแปลงนี้ และเพื่อหาทางออกที่ส่งผลดีต่อทุกฝ่าย
การนำ HR Digital Transformation เข้ามาช่วยในการจัดการด้านบริหารทรัพยากรบุคคล ย่อยช่วยในการปรับปรุงและพัฒนาการทำงานของทุกฝ่ายในปี 2023 รวมถึงในปีต่อ ๆ ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้แน่นอน